J Compile
J Compile
ข้อมูลทั่วไป
J-Compile เป็นโปรแกรมชุดสำหรับงานร้านค้า โปรแกรม J-Compile ประกอบด้วยโปรแกรม จุดขาย (POS) ซึ่งเป็นโปรแกรมช่วยในการจัดการเกี่ยวกับการขายหน้าร้านบนโต๊ะแคชเชียร์ ใช้งานง่ายแต่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าเครื่องบันทึกเงินสดทั่วไป (Cash Register) อีกส่วนหนึ่งคือ โปรแกรมหลังร้าน (Back office) เป็นโปรแกรมจัดการเกี่ยวกับงานคลังสินค้า ลูกหนี้เจ้าหนี้ งานสั่งซื้อ ฯลฯ
ทำไมต้อง J-Compile?
ปัจจุบันมีโปรแกรม ณ จุดขายอยู่ในท้องตลาดมากมายหลายชื่อ แต่ J-Compile กล้าที่จะเสนอผลิตภัณฑ์ด้วยความมั่นในคุณลักษณะห้าประการสำคัญ ที่จะทำให้ J-Compile เป็นซอฟต์แวร์ที่ตอบสนองความต้องการของเจ้าของกิจการอย่างคุณได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ดังนี้
- 1. ยืดหยุ่น
- J-Compile เหมาะสำหรับธุรกิจทุกระดับ ตั้งแต่ร้านค้าปลีกขนาดเล็กจนถึงระดับซูเปอร์สโตร์
- 2. ง่าย
- J-Compile ใช้งานง่าย ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่แม้แต่ไม่เคยใช้งานคอมพิวเตอร์มาก่อน ก็เรียนรู้และเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
- 3. ขายคล่อง
- J-Compile รองรับการขายได้หลายรูปแบบ เช่น จัดชุด ช่างน้ำหนัก มีของแถม จัดโปรโมชัน ลดตามปริมาณ ฯลฯ
- 4. ไม่หยุดนิ่ง
- J-Compile มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจได้ว่า โปรแกรมจะรองรับระบบใหม่ ๆ หรือกฎเกณฑ์อาจเปลี่ยนไปในอนาคตได้อย่างไม่มีปัญหา
- 5. แบ็กออฟฟิศแน่น
- J-Compile มีระบบหลังร้านที่มีประสิทธิภาพ เช่น ระบบสต็อกสินค้า ระบบสาขา แยกสต็อกสินค้า โอนย้าย ลูกหนี้/เจ้าหนี้ ใบสั่งซื้อ ฯลฯ
คุณสมบัติเด่น
- สามารถใช้งานได้กับบริษัท และร้านค้าปลีก-ส่ง ทั่วไปได้ เช่น มินิมาร์ท ร้านขายยา มือถือ อะไหล่ เป็นต้น
- ทำงานได้ทั้งแบบเครื่องเดี่ยว และแบบเครือข่าย
- บันทึกการขายและคืนสินค้า แบบเครื่องบันทึกเงินสดทั่วไป
- มีระบบคีย์ลัด (hot key) สำหรับรายการที่ขายบ่อย และรายการล่าสุด ช่วยให้การขายเป็นอย่างรวดเร็ว
- รองรับการใช้จอสัมผัส (touch screen)
- สามารถยกเลิกกรายการขายหรือคืนสินค้า
- กำหนดประเภทการชำระได้ทุกประเภท
- บันทึกชนิดสินค้าได้ไม่จำกัด
- รองรับสินค้าที่มีระบบเลขอนุกรม (serial number) จึงบันทึกและตรวจสอบสินค้าโดยระบุชิ้นได้ เช่นร้านโทรศัพท์มือถือ ร้านอะไหล่คอมพิวเตอร์
- กำหนดหน่วยย่อยของสินค้าได้ไม่จำกัด พร้อมทั้งตัดสต๊อกอัตโนมัติ และในระดับหน่วยย่อยสามารถกำหนดรหัสบาร์โค้ด และระดับราคาขายได้
- จดจำราคาขายล่าสุดของลูกค้าแต่ละรายได้
- กำหนดส่วนลดได้ทั้งแบบเปอร์เซ็นต์และจำนวนเงิน
- กำหนดโปรโมชันได้หลายแบบ เช่น ลดโปรโมชั่น ลดตามลูกค้า ลดตามจำนวน
- กำหนดสินค้าเป็นชุดได้ เช่น ชุดกระเช้าของขวัญ พร้อมทั้งตัดสต็อกอัตโนมัติเมื่อขายกระเช้า
- ตรวจสอบคลังสินค้า ต้นทุนสินค้า กำไรขาดทุนเบื้องต้น ภาษีซื้อ-ภาษีขายได้
- โอนถ่ายข้อมูลระหว่างสาขา หรือเลือกที่จะปรับปรุงข้อมูลที่ศูนย์กลางได้
- กำหนดข้อมูลได้หลายคลังสินค้า และโอนคลังสินค้าได้อัตโนมัติ
- สามารถจัดการเรื่องบัตรสมาชิก
- ขายสินค้าทั้งมีและไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่มได้ในใบกำกับภาษีใบเดียวกัน
- ขายได้ทั้งเงินสด เงินเชื่อ บัตรเครดิต เช็ค เงินโอน หักจากเงินมัดจำได้
- บันทึกข้อความโฆษณาท้ายใบกำกับภาษีได้ ออกแบบใบกำกับภาษีเองได้
- ควบคุมวงเงินเครดิตได้,โอนรายการจองสินค้าเป็นรายการขายได้
- มีรายงานที่หลากหลาย ให้ประโยชน์ทั้งการควบคุมภายในและการวิเคราะห์ธุรกิจ
- สามารถทำงานได้ทั้งแบบออนไลน์ (ตัดสต็อกและลงบัญชีทันทีเมื่อมีการขาย) และแบบออฟไลน์ (ส่งข้อมูลการขายปลีกไปตัดสต๊อคและลงบัญชีหลังจากปิดร้านแล้ว)
- เชื่อมโยงกับระบบงานบัญชี ทำให้สามารถทำงานได้ทั้งหน้าร้าน (Front) และหลังร้าน (Back) ได้ครบวงจร และถ้าหากเป็นระบบเครือข่าย (LAN) สามารถทำงานได้ทั้งหน้าร้านและหลังร้านพร้อมกัน โดยระบบงานบัญชีที่นำมาเชื่อมต่อ ได้แก่
- ระบบซื้อ/จัดซื้อสินค้า, พิมพ์บาร์โค้ดสินค้า
- ระบบขาย/จองสินค้า
- ระบบเช็ค/ธนาคาร
- ระบบบัญชีเจ้าหนี้
- ระบบบัญชีลูกหนี้
- ระบบสินค้าคงคลัง
- สามารถบันทึกข้อมูลโดยใช้รหัสแท่ง (barcode) ช่วยลดการผิดพลาดในการบันทึกข้อมูล และช่วยให้ทำการขายสินค้าได้รวดเร็วขึ้น
- สินค้า 1 ชนิดสามารถกำหนดรหัสได้ 2 ประเภท ได้แก่ รหัสสินค้า เพื่อควบคุมสต๊อค และรหัสแท่ง เพื่อความรวดเร็วในการขายหน้าร้าน
- รองรับการขายสินค้าเป็นจัดชุดหรือแพ็ค
- รองรับรหัสแท่งที่พิมพ์จากเครื่องชั่งน้ำหนัก
- รองรับอุปกรณ์ต่อพ่วงหลายชนิด เช่น เครื่องอ่านบาร์โค้ด เครื่องพิมพ์สลิปแบบกระดาษม้วน ลิ้นชักเก็บเงิน ป้ายแสดงราคา
- รองรับการรับชำระทั้งเงินสด, บัตรเครดิต และคูปอง
- รองรับการรับชำระแบบผสม เช่น เงินสด+บัตรเครดิต, เงินสด+คูปอง
- รองรับการเชื่อมต่อเครื่องอนุมัตบัตรเครดิตยี่ห้อ HYPERCOM กับ IBM SUREONE ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน และข้อผิดพลาด ในกรณีที่รับชำระด้วยบัตรเครดิต ระบบงานจะรับข้อมูลจากเครื่องอนุมัตรบัตรเครดิต โดยไม่ต้องบันทึกเพิ่มเติม
- กำหนดสิทธิให้กับแคชเชียร์ว่า สามารถเปลี่ยนราคา ให้ส่วนลด หรือยกเลิกการขายได้หรือไม่
- กำหนดให้จุดขายแต่ละจุดตัดสินค้าจากคลังใดก็ได้ (ในกรณีที่มีคลังสินค้ามากกว่า 1 คลัง)
- กำหนดอัตราการชาร์จค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตแต่ละชนิดโดยระบบงานจะบวกเพิ่มเป็นค่าบริการให้อัตโนมัติ และลงบัญชีเป็นสินค้าบริการให้ด้วย
- สะสมยอดซื้อของสมาชิกและพิมพ์รายงานยอดซื้อของสมาชิกได้
- พิมพ์ใบกำกับภาษีเต็มรูปได้ทั้งแบบฟอร์มสำเร็จรูป และกระดาษม้วน
- กำหนดอัตราภาษีอัตโนมัติ เช่น 7% หรือ 10% ได้
- พิมพ์ใบกำกับภาษีลงในแบบฟอร์มที่มี่อยู่ (Preprint Form) หรือจะเลือกใช้แบบฟอร์มมาตรฐาน (Standard Form) จากระบบงานได้
- แก้ไขรูปแบบการพิมพ์ของใบกำกับภาษีอย่างย่อและอย่างเต็มได้ตามต้องการ
- แก้ไขรูปแบบรายงานเปลี่ยนแคชเชียร์ (ปิดกะ) และรายงานปิดสิ้นวันได้ตามต้องการ เช่น เปลี่ยนช่วงเวลาในการปิดกะ
- สามารถเลือกพิมพ์ฟอร์มได้หลายรูปแบบ ได้แก่ แบบกระดาษม้วนสมบูรณ์ แบบกระดาษม้วนประหยัดหัวกระดาษ และฟอร์ม A4
- รองรับการคิดค่าบริการกับลูกค้า เช่น ค่าขนส่ง, ค่ามัดจำล่วงหน้า เป็นต้น
- สามารถกำหนดช่วงวันและเวลาที่ต้องการจะขายสินค้าราคาพิเศษได้ เช่น การจัดโปรโมชัน
- พักบิลและยกเลิกบิลที่พักไว้ได้ ทำให้ขายสินค้าให้ลูกค้ารายต่อไปได้ แม้ว่ายังไม่จบการขาย
- กำหนดวงเงินในลิ้นชัก เมื่อมีเงินในลิ้นชักเกินวงเงินที่กำหนดไว้ ระบบงานจะเตือนให้อัตโนมัติ
- สามารถตรวจสอบยอดเงินในลิ้นชักของแต่ละจุดขายจากเครื่องอื่นที่อยู่ในระบบเครือข่ายเดียวกัน
- ปรับราคาขายได้ทั้งปกติและราคาพิเศษ โดยใช้ราคาขาย หรือราคาซื้อล่าสุดเป็นฐานในการคำนวณ
- สามารถเพิ่มหรือลดเป็นเปอร์เซ็นต์หรือเป็นจำนวนเงินก็ได้
- สามารถกำหนดวิธีปัดเศษสตางค์ได้เอง (ขึ้น/ลง)
ความต้องการขั้นต่ำของระบบ
- ระบบปฏิบัติการ Windows 7 หรือใหม่กว่า
- พื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสก์ 10 GB
- แรม 2 GB
หน้าจอตัวอย่าง
ผู้พัฒนา
หจก.เอ็นไทเทิล
ห้อง 073 ชั้น 3 อาคารฟอร์จูนทาวน์ ใกล้สี่แยก อสมท. ถนนรัชดาภิเษก
เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์ 0-2641-1825 โทรสาร 0-2641-1825
ติดต่อ
คุณอภิษาณฑ์ 081-8180357